通货膨胀期间投资公寓如何选择才不会错过呢？

1923

ในยุคปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกเริ่มดีดสูงขึ้นทุกปี กระทรวงพาณิชย์เผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคม 2564 เพิ่มสูงขึ้นถึง 2.17% คาดว่าในปี 2565 นี้อัตราเงินเฟ้อจะขยับสูงขึ้นไปถึง 2.4% แน่นอนว่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อที่ดีดสูงขึ้น ก็จะส่งผลกระทบกับผู้บริโภค ทั้งเรื่องราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น ต้นทุนที่แพงขึ้น รวมถึงราคาคอนโดฯ และอสังหาฯ ก็แพงขึ้นเช่นกัน โดยภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้นส่งผลให้มูลค่าเงินสดถูกด้อยค่าลง แต่ในทางกลับกันก็ยังถือว่าเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่จะสร้างผลกำไรจากการลงทุนคอนโดในภาวะเงินเฟ้อนี้ได้

เชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินคำว่า "เงินเฟ้อให้ลงทุนอสังหาฯ" แล้วเคยสงสัยไหมว่าการลงทุนคอนโด หรือการลงทุนอสังหาฯ ช่วยต้านเงินเฟ้อได้จริงไหม? แล้วทำไมถึงต้องลงทุนคอนโดในช่วงสภาวะเงินเฟ้อ? มีโอกาสยังไง ? วันนี้เราจะพามาหาคำตอบกันครับ พร้อมชี้เป้าทำเลเด็ดในการเลือกลงทุนคอนโดในช่วงสภาวะเงินเฟ้อ มีที่ไหนบ้างมาดูกันเลยครับ

ทำไมควรลงทุนคอนโดในภาวะเงินเฟ้อ ?

ภาวะเงินเฟ้อทำให้มูลค่าเงินถูกลดค่าลงต่ำกว่าที่เป็นจริง หลายคนคงสงสัยว่าในภาวะเงินเฟ้อแบบนี้ด้วยมูลค่าเงินที่ลดลงทำให้การซื้อขายคอนโดฯ ก็น่าจะทำได้ยากขึ้นตามไม่ใช่เหรอ? แต่ความเป็นจริงแล้วภาวะเงินเฟ้อแบบนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนคอนโดฯ อยู่เหมือนกัน มีเหตุผลอะไรบ้างเรารวบรวมมาไว้ให้แล้วครับ

1.อสังหาฯ คือทรัพย์สินที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นตามกาลเวลา เรียกได้ว่า ลดความเสี่ยงของผลกระทบจากสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

2.ในช่วงสภาวะเงินเฟ้อธนาคารกลางจะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้สามารถออกสินเชื่อได้ง่ายขึ้นช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการลงทุน

3.ในสภาวะเงินเฟ้อผู้ประกอบการสามารถจ้างงานคนเข้าสู่ตลาดงาน จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพัฒนาอสังหาฯ ต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น

4.มูลค่าของอสังหาฯ แบบซื้อขาด จะมีอัตราที่สูงขึ้นจากค่าแรงและค่าวัสดุที่เพิ่มมากขึ้น

แน่นอนว่าเหตุผล 4 ข้อหลักๆ นี้ทำให้การลงทุนคอนโดในภาวะเงินเฟ้อนั้นเป็นทางออกที่ดีกว่าการนำเงินไปเก็บไว้ในธนาคารแล้วปล่อยให้ค่าเงินของเราลดลงไปเรื่อยๆ นั่นเอง

ลงทุนคอนโดในภาวะเงินเฟ้อ ทำกำไรได้ถึง 3 ต่อ !?

ซึ่งข้อดีของการลงทุนคอนโดในภาวะเงินเฟ้อนักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้ถึง 3 ต่อ

ต่อที่ 1 - มูลค่าคอนโดที่ปรับสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ

ต่อที่ 2 - ยอดการกู้ซื้อคอนโดไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ การกู้ซื้อคอนโดง่ายขึ้นจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

ต่อที่ 3 - การทำกำไรจากการปล่อยเช่าคอนโด ที่สูงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ

ข้อควรพิจารณาการลงทุนคอนโดฯ ในภาวะเงินเฟ้อ

หากเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3% ต่อปี และอาจมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอาจทำให้การซื้อขายนั้นยากขึ้น อย่างเช่น ในปัจจุบันเราซื้อคอนโดในราคา 2 ล้าน แต่ในอีก 4-5 ปีข้างหน้าราคาคอนโดอาจปรับตัวสูงขึ้นไปจนถึง 3-4 ล้าน นอกจากนั้นทางโครงการอาจมีการปรับราคาคอนโดฯ สูงขึ้น 2-6% ต่อปี ด้วยปัจจัยด้านต้นทุน ค่าแรง วัสดุ ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการตัดสินใจซื้อช้าเกินไปอาจทำให้ต้องซื้อคอนโดในราคาที่แพงขึ้น ในทำเลที่ไกลขึ้นนั่นเอง

เลือกคอนโดทำเลไหนดี ?

ทำเลคอนโดถือเป็นหัวใจสำคัญในการลงทุนคอนโดมาก ซึ่งทุกการลงทุนในอสังหาฯ ไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไปหากเราเลือกคอนโดฯ ที่ไม่ตรงตามความต้องการของตลาดอาจส่งผลให้การทำกำไรจากการลงทุนคอนโดเป้นไปได้ยากขึ้น ซึ่งการที่เลือกทำเลคอนโดที่เป็น Prime Area นั้นจะได้เปรียบไปกว่าครึ่ง ด้วยรื่องของราคาที่ดินที่จะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างของทำเลไม่ว่าจะเป็น เป็นศูนย์รวมของสำนักงานเกรดA , เป็นแหล่งงานที่นิยมของชาวต่างชาติ , แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่ครบครัน , การเดินทางที่ง่ายเชื่อมต่อด้วยรถไฟฟ้า รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ทำเล จึงทำให้เพิ่มศักยภาพของทำเลเหล่านี้ได้อย่างไร้ข้อสงสัย แล้ว Prime Area มีที่ไหนบ้างล่ะ ? แน่นอนว่า Prime Area ใจกลางกรุงเทพฯ นั่นก็คือย่าน CBD ที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมของแหล่งงานและธุรกิจในกรุงเทพฯ ซึ่งทำเลฮอตสำหรับคอนโดหรูที่ได้รับความนิยมก็จะมีอยู่ไม่กี่ทำเล อย่างเช่น ทองหล่อ, สีลม, ราชดำริ , สาทร , เพลินจิต ทำเลเหล่านี้ล้วนเป็นทำเลยอดนิยมของชาวต่างชาติ

ใกล้ Interchange มีชัยไปกว่าครึ่ง

ทำเลที่ใกล้กับสถานีที่เป็นจุดตัดของสายรถไฟฟ้าเรียกได้ว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจ และเชื่อว่านักลงทุนหลายคนต่างจับตามอง แล้วทำไมทำเลที่ใกล้กับ Interchange ถึงมีความน่าสนใจ ? แน่นอนว่าอันดับหนึ่งคือความสะดวกสบายในการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายเส้นทางมากขึ้น ซึ่งด้วยปัจจัยนี้ทำให้คนหลั่งไหลเข้ามาในทำเลนี้มากขึ้น ส่งผลให้ทำเลมีการจับจ่ายใช้สอยและเพิ่มศักยภาพของทำเลนั้นๆ ไปในตัว มีทำเลไหนบ้างที่เป็นจุดตัด Interchange ที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย

- BTS อโศก - MRT สุขุมวิท เป็นทำเลใกล้สถานีอินเตอร์เชนจ์สำหรับมนุษย์เงินเดือน มีอาคารสำนักงานมากมาย จากแต่ก่อนที่ทำเลนี้เป็นแหล่งเศรษฐกิจหลักอยู่แล้ว การมาของอินเตอร์เชนจ์ อโศก - สุขุมวิท ยิ่งทำให้เพิ่มศักยภาพของทำเลนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย และมีการเปิดตัวของห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ และขนาดใหญ่

- BTS ศาลาแดง - MRT สีลม ทำเลในฝันของหลายคน เป็นศูนย์รวมแหล่งงานชั้นนำ จากแต่ก่อนที่มีรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนเพียงสายเดียว แต่เมื่อหลังจากที่รถไฟฟ้าใต้ดินเปิดตัว ก็ช่วยให้การเดินทางให้เข้ามาทำงานสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายขึ้น

- สยาม เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เป็นศูนย์กลางของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่นี่ถือว่าเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์แห่งแรกที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสายสีลมและสายสุขุมวิท สามารถเปลี่ยนขบวนสายรถไฟฟ้าได้โดยที่ไม่ต้องออกจากตัวสถานี

- BTS ห้าแยกลาดพร้าว - MRT ลาดพร้าว เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่น่าจับตามองอีกหนึ่งทำเล ด้วยศักยภาพของทำเลที่ครบครันเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งงาน รวมถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำ บวกกับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า 2 สาย ทำให้ทำเลนี้ได้ฉายาว่าเป็น The Next New CBD ไปโดยปริยาย

- BTS หมอชิต - MRT สวนจตุจักร เป็นสถานี Interchange ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี สามารถเชื่อมต่อกันระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับสีน้ำเงิน เป็นอีกหนึ่งทำเลที่สะดวกสบายเรื่องของการเดินทาง อีกทั้งยังใกล้พื้นที่สวนสารธารณะขนาดใหญ่อีกด้วย