Decorative Styles แต่งคอนโดสไตล์ไหนที่เป็นคุณ

สำหรับคอนโดมิเนียมในประเทศไทย ห้องส่วนใหญ่ที่ขายจะมาในรูปแบบ Fully Furnish & Fully Fitted ซึ่งจะถือว่าเป็นรูปแบบมาตรฐาน และยังเปิดโอกาสให้เจ้าของห้อง สามารถออกแบบและตกแต่งห้องของตัวเองไปในสไตล์ต่างๆได้มากกมายซึ่งไม่ว่าจะเป็นเหตุผลเพื่อการปล่อยเช่า หรือการอยู่อาศัยเองก็นับเป็นวิธีที่จะทำให้มูลค่าของห้องนั้นสูง และน่าดึงดูดยิ่งขึ้นแต่สไตล์การแต่งห้องนั้นก็ใช่ว่า 1 รูปแบบนั้นจะเหมาะสมกับผู้เช่าและผู้ซื้อในทุกๆคน การแต่งห้องจึงจำเป็นต้องศึกษากลุ่มลูกค้า กลุ่มไลฟ์สไตล์ต่างๆให้เหมาะสม

1. การตกแต่งภายใน Beach House Style

เป็นการแต่งบ้านที่ไม่มีข้อจำกัดตายตัว การออกแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับสไตล์ความชอบของเจ้าของบ้าน โดยหลักสำคัญคือ การตกแต่งให้มีบรรยากาศของชายหาด ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ทะเล เน้นให้เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติ โดยจัดตกแต่งให้มีความกลมกลืน ดูสบายตาและผ่อนคลาย เพิ่มบรรยากาศให้ดูเสมือนบนชายหาดมากขึ้น คุณสามารถทำได้โดยการเลือกตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ และรูปภาพวิวของทะเลที่สวยงาม แนวปะการัง หรือเปลือกหอย โดยเลือกตำแหน่งให้อย่างเหมาะสม เช่น ติดไว้ที่ห้องรับแขก หรือจะติดรูปแนวปะการังสวยๆ ในห้องน้ำ เป็นต้น

2. การตกแต่งภายใน Zen Style

Zen Style เป็นสไตล์การตกแต่งที่ “เน้นความเป็นธรรมชาติ มีความสงบเรียบง่าย” โดยจะตัดความหรูหราตัดรายละเอียดการตกแต่งที่ไม่จำเป็นออกไป บรรยากาศภายในบ้านจะโปร่งโล่ง ดูเรียบง่าย สงบและผ่อนคลายเหมือนว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่กำลังสงบนิ่ง บ้านสไตล์เซนจึงเหมาะสำหรับคนที่รักความสงบ รักความเป็นธรรมชาติหลีกหนีความสับสนวุ่นวายในชีวิตประจำวันสู่วิถีแห่ง Zen Style มีหลักในการออกแบบ และเลือกใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเลือกใช้สีที่ให้ความรู้สึกสงบเบาสบาย เช่น สีครีม สีขาว สีดำ สีน้ำตาล สีฟ้า สีเขียว หรือสีเอิร์ธโทน นอกจากนี้ควรใช้แสงสว่าง และวัสดุจากธรรมชาติ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบง่าย เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เห็นสีธรรมชาติจากเนื้อไม้ พื้นไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมีพรมนุ่มๆ ปูพื้นไว้ด้วย จัดข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

3. การตกแต่งภายใน Tropical Style

Tropical Style หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการประยุกต์นำเอาวิธีการตกแต่งบ้านให้เข้ากับสภาวะอากาศ หรือภูมิอากาศในแบบร้อนชื้น อารมณ์คล้ายๆ กับได้ไปพักผ่อนในช่วงหน้าร้อน แบบชิวๆ สบายๆ แต่ยังคงความมีสไตล์และเป็นเอกลักษณ์เอาไว้โดยหลักๆ แล้วการตกแต่งใน Tropical Style นั้น จะเลือกใช้โทนสีแบบเอิร์ธโทน แบบสว่างและมีความสดใส บวกเข้ากับลวดลายกราฟิก หรือลายเส้นในโทนสีขาวดำแบบทันสมัย เป็นหลัก

4. การตกแต่งภายใน Post Modern Style

Post Modern คือการสร้างรูปแบบงานออกแบบใหม่ที่ไม่ใช่ทั้ง Modern และ รูปแบบ Classic แต่กลับเป็นการสร้างลูกผสมระหว่างทั้งสองรูปแบบขึ้นมามักจะมีการใช้สีสันที่สดใส หรือวัสดุที่แปลกใหม่ ตลอดจนรูปทรงที่แปลกตา เข้ามาใช้ด้วยเช่นกัน เป็นการผสมผสานที่ลงตัว ตามสไตล์ที่ต้องการของผู้อยู่อาศัย

5. การตกแต่งภายใน English Country Style

English Country จะมีการออกแบบอย่างลงตัว เน้นประโยชน์ใช้สอยของสมาชิกในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกัน การรับประทานอาหาร หรือการพักผ่อนร่วมกัน งานด้านการตกแต่งสไตล์ English Country ช่วยทำให้ผู้อาศัยรู้สึกอบอุ่นครับ โทนสีที่ใช้ในการตกแต่งบ้านจะดูเรียบง่าย และเป็นสีที่ลอกเลียนจากธรรมชาติ เป็นโทนสีอ่อนๆดูเย็นตา ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เช่น สีชมพูจากดอกกุหลาบ สีเขียวอ่อนจากใบไม้ สีฟ้าอ่อน เป็นต้น ครับ ส่วนลวดลายที่นิยมนำมาตกแต่งบ้านสไตล์ English Country นั้นจะมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจะเห็นได้จากลักษณะเด่น คือการนำลายดอก หรือลายฉลุ ลายตรงมาประดับตกแต่ง สร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในสวนดอกไม้ดูผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นครับ

6.การตกแต่งภายใน Luxury Style

เสน่ห์แห่งความสวยหรู ทุกองค์ประกอบตั้งแต่การออกแบบ การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชั้นงามราคาแพงจากวัสดุเกรดระดับพรีเมี่ยม สะท้อนความแวววาวระยิบระยับและให้ประกายมันวาว รวมถึงของตกแต่งบ้านชิ้นอื่นๆ ที่ให้ประกายสวยระยับจับตาในคอนเซ็ปต์เดียวกัน

7.การตกแต่งภายใน Oriental Style

Oriental มาจากแนวคิดและปรัชญาของชาวตะวันออก หรือเอเชีย การนำเอาเอกลักษณ์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของวิถีชีวิตแบบเอเชีย เข้ามาเป็นแกนหลัก และสิ่งสำคัญของการตกแต่ง ไม่ว่าจะรูปแบบเฟอร์นิเจอร์ สีสัน หรือข้าวของเครื่องประดับ ซึ่งสะท้อนกลิ่นอายความสง่างาม ที่แฝงด้วยความอบอุ่น รวมถึงปรัชญา แนวคิด คติจากหลักศาสนา และแน่นอนว่า วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่คือวัสดุที่หาได้ง่าย ในท้องถิ่น สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ ของประเทศในแถบเอเชีย เฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมในสไตล์ Oriental ก็คือเฟอร์นิเจอร์ไม้ สีทึบ ไม่มีลวดลายมาก รวมถึงการผุเฟอร์นิเจอร์ด้วยผ้าไหมสีเรียบก็เป็นอีกเสน่ห์ที่น่าสนใจ

8.การตกแต่งภายใน Natural Brown Tone Style

แค่เห็นก็อยากล้มตัวลงพักผ่อน กับการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เหมือนได้อยู่บ้านพักตากอากาศ โดยการตกแต่งได้เน้นโทนสีน้ำตาลเป็นหลัก เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติและความอบอุ่น รวมไปถึงการแบ่งสัดส่วนพื้นที่การใช้งานภายในห้อง แค่เห็นก็อยากล้มตัวลงพักผ่อน กับการตกแต่งที่ให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เหมือนได้อยู่บ้านพักตากอากาศ โดยการตกแต่งได้เน้นโทนสีน้ำตาลเป็นหลัก เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติและความอบอุ่น รวมไปถึงการแบ่งสัดส่วนพื้นที่การใช้งานภายในห้อง เป็นการตกแต่งที่มีการผสมผสานกับธรรมชาติ และโทนสีจะเน้นไปทางโทนสีน้ำตาล รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ที่จะเน้นวัสดุที่เป็นไม้ ซึ่งมาความเป็นธรรมชาติในการโชว์ลวดลายเนื้อไม้

9.การตกแต่งภายใน Classic Style

เป็นสไตล์การแต่งห้องที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ที่แตกต่างให้กับห้องของคุณ ลักษณะเด่นของการแต่งห้อง Classic Style คือการใช้วัสดุธรรมชาติ สำหรับพื้นจะนิยมใช้หินอ่อน หินแกรนิต หรือบางครั้งอาจเป็นพื้นหินขัด ที่มีลักษณะพื้นผิวค่อนข้างมันเงา และจะใช้หลักการความสมดุลซ้าย-ขวา เฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งภายในห้องก็จะมีเอกลักษณ์รูปทรงที่มีความอ่อนช้อย และประณีต เสริมความเรียบหรูแบบ Classic Style ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ด้วยความประณีตของ Thaniya Decorative Art ที่มีลวดลายงานเขียนมือด้วยความอ่อนช้อยและความสมดุลของรูปทรงที่เข้ากันได้ดีกับ Classic Style อย่างลงตัว นอกจากนี้สีขาวและสีดำยังถ่ายทอดอารมณ์ความบริสุทธ์ที่แฝงด้วยความแข็งแกร่ง

10.การตกแต่งภายใน Thai Style

อีกหนึ่งสไตล์การแต่งห้องที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร และอาจถูกใจใครหลายคน ด้วย Thai Style ที่มีเอกลักษณ์และกลิ่นอายของความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ โต๊ะ ตู้ หรือจะเป็นเตียง ที่มีรูปทรงและลวดลายของลายไทย ส่วนใหญ่เรามักจะได้เห็นรูปแบบ Thai Style ตามโรงแรมต่างๆหรือจะเป็นรูปแบบของรีสอร์ท ด้วยกลิ่นอายที่ทำให้นึกถึงบรรยากาศไทยๆ ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายโล่งสบาย เพิ่มกลื่นอายความเป็นไทยให้เด่นชัดยิ่งขึ้นด้วยงานเซรามิก Thaniya งานฝีมือคนไทย ที่มีจิตวิญญาณและเอกลักษณ์ของความเป็นไทย เพิ่มกลิ่นอายความเป็นไทยให้เด่นชัดขึ้นด้วย Cookie Jar งานเซรามิกของ Thaniya ซึ่งมีลวดลายที่บอกเล่าเรื่องราวของความเชื่อของคนไทยที่เชื่อกันว่าหากเลี้ยงแมวที่มีลักษณะดีเป็นมงคลจะให้คุณ ส่งเสริมให้เจ้าของมีวาสนาดี

โดยส่วนใหญ่ขนาดห้องคอนโดจะมีขนาดไม่เกิน 30 ตารางเมตร ถือเป็นห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่การใช้งานที่จำกัดแต่ครบถ้วน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว การเพิ่มพื้นที่วางเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว (Loose Furniture) หรือ Built-in Furniture จะทำให้พื้นที่การใช้งานน้อยลง แต่จากการแต่งคอนโดด้านบน เน้นการใช้งานที่ครบถ้วน เลือกใช้แต่เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น ตัวเฟอร์นิเจอร์มีความโปร่ง และมีการคุมโทนสีให้ใช้สีโทนสว่าง เสริมให้มีพื้นที่ใช้สอยของห้องกว้างขวาง สบายตา ที่สำคัญมีเอกลักษณ์บ่งบอกคาเรคเตอร์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน

หากคุณ เป็นคนที่ต้องการอยากจะตกแต่งคอนโด หรือบ้านตามสไตล์ของคุณ ทาง The Bangkok Residence ขอแนะนำ U DEE Design
เพราะที่นี่มี Design Consulting ให้คำปรึกษาด้านการออกแบบในแบบฉบับของคุณตอบคำถามในทุกรายละเอียดพร้อมให้คำแนะนำด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบเน้นความต้องการและเป้าหมายของลูกค้าเป็นสำคัญ
 

THE BANGKOK RESIDENCE

"Real Estate for Happiness"

Contact us now

Call Center : 1319

Line @bkkresidence