Thebkkresidence.com
1. รู้ความสามารถการกู้ และจำนวนเงินที่ผ่อนบ้านกับธนาคาร
สูตรการคำนวณราคาบ้านที่จะกู้ซื้อบ้านได้นั้น สามารถคำนวณคร่าว ๆ โดยใช้สูตร (รายได้ต่อเดือน) X (60 เท่าของรายได้) = (ราคาบ้านที่กู้ซื้อได้) เช่น รายได้ 30,000 บาทต่อเดือน X 60 = 1.8 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นขั้นต่ำของวงเงินที่จะกู้ได้ บางธนาคารอาจจะขยับจำนวนเท่าของรายได้ขึ้นลงขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์พิจารณาตามขั้นตอนกู้ซื้อบ้านแต่ทั้งนี้ วงเงินดังกล่าวถือเป็นวงเงินที่ให้ในกรณีที่คุณไม่มีภาระหนี้ใด ๆ เลย ดังนั้นต้องมาดู “ภาระหนี้ต่อรายได้” ของเราด้วย หรือศัพท์ธนาคารจะเรียกว่าค่า DSR (Debt Service Ratio) ซึ่งส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ผู้กู้ซื้อบ้านมีภาระหนี้ได้ 30-40% ของรายได้ สูตรจึงเป็น (รายได้ต่อเดือน) X (30% หรือ 40%) = (ความสามารถผ่อนบ้านกับโครงการ)เช่น รายได้ 30,000 บาทต่อเดือน X 30% หรือ 40% = 9,000-12,000 บาท ภาระหนี้ที่ว่า หมายถึงภาระหนี้ทุกอย่างที่มี ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนรถ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ดังนั้นสมมติว่ามีภาระหนี้ผ่อนรถอยู่เดือนละ 8,000 บาท ความสามารถผ่อนบ้านกับธนาคารที่เหลือว่างอยู่จึงเหลือเพียง 1,000-4,000 บาทเท่านั้น ซึ่งจะคำนวณกลับว่าสามารถกู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่โดยใช้สูตรนี้ (1,000,000 ÷ 7,000) x (ความสามารถผ่อนบ้านกับโครงการ) = (วงเงินที่สามารถกู้ได้)เช่น (1,000,000 ÷ 7,000) x 4,000 = กู้บ้านได้ในราคา 571,429 บาท *กรณีนี้กำหนดให้ผู้กู้มีภาระหนี้ได้ 40% เมื่อทราบความสามารถการผ่อนบ้านกับธนาคาร และราคาบ้านที่กู้ได้ของตนเองแล้ว ก็เลือกหาที่อยู่อาศัยที่ตรงใจและเหมาะสมกับความสามารถของเราต่อไป
2. เก็บออมเงินดาวน์
ในระหว่างที่เลือกหาอยู่นั้น อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในขั้นตอนการซื้อบ้านคือ เราควรที่จะเก็บออมเงินเป็นค่าดาวน์บ้านหรือคอนโดมิเนียมไว้ด้วย เพราะธนาคารมีกฎคือปล่อยสินเชื่อกู้บ้านได้สูงสุด 90% ของราคาบ้าน เช่น ราคาบ้าน 1 ล้านบาท ธนาคารจะให้กู้มากที่สุด 9 แสนบาท อีก 1 แสนบาทจึงเป็นเงินสดที่เราจะต้องจ่ายโดยตรงให้กับผู้พัฒนาโครงการเองดังนั้น โครงการจัดสรรต่าง ๆ จะมีโปรแกรมให้เราผ่อนดาวน์เป็นรายเดือนกับโครงการในระหว่างที่โครงการยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง (ธนาคารจะปล่อยกู้เมื่อที่อยู่อาศัยนั้นสร้างเสร็จแล้ว) โดยทั่วไปจะเก็บเงินดาวน์ที่ 10-20% ของราคา ยกตัวอย่างเช่น ราคาบ้านเดี่ยว 5 ล้านบาท เรียกเก็บเงินดาวน์ 10% = 5 แสนบาท โดยให้ผ่อนดาวน์ 10 เดือน = ชำระค่าดาวน์บ้านเฉลี่ยเดือนละ 50,000 บาท ด้วยการชำระค่าดาวน์บ้านต่อเดือนที่ค่อนข้างสูง ทำให้เราต้องเตรียมตัวเก็บออมเงินไว้ก่อนส่วนหนึ่งเพื่อนำมาใช้เป็นค่าดาวน์บ้านนั่นเอง อย่างไรก็ตาม จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV ทำให้ผู้ซื้อบ้าน-คอนโด (โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่) สามารถกู้ได้ 100% (ถึงธันวาคม 2565)
3. เดินบัญชีธนาคารให้สวย
ส่วนต่อมาของขั้นตอนการซื้อบ้าน คือเรื่องของเอกสารเมื่อจะยื่นกู้เงินซื้อบ้าน ธนาคารจะขอดูบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ซึ่งทำให้ในช่วง 6 เดือนนี้ควรจะมีเงินคงไว้ในบัญชีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรถอนออกหมด และถ้าหากมีรายได้เสริมประจำเดือน หรือทำอาชีพฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า ที่ได้รับเงินเป็นรายครั้ง/รายวัน ก็ควรจะโอนเข้าในบัญชีอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน
4. ชำระหนี้ให้ตรงเวลา
อีกข้อที่ธนาคารจะตรวจสอบคือ “เครดิตบูโร” ซึ่งจะมีประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ย้อนหลัง 3 ปี ใน 3 ปีนี้ถ้าหากมีการชำระหนี้ไม่ตรงเวลา หรือที่มักเรียกกันติดปากว่าติด “แบล็คลิสต์” ซึ่งเป็นคำนิยามของ “ผู้ที่มีประวัติในการผ่อนชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือผ่อนชำระหนี้ไม่ได้ตามข้อตกลง” ถือว่าเป็นผู้กู้ที่มีความเสี่ยงจะเป็นหนี้เสีย ดังนั้น หากมีการกู้ซื้อสินค้าใด ๆ หรือการชำระค่าบัตรเครดิต ก็ควรต้องจ่ายให้ตรงเวลาทุกครั้ง เพราะการติดแบล็คลิสต์อาจทำให้ธนาคารปฏิเสธการให้กู้เงินซื้อบ้านไปโดยสิ้นเชิงได้ใครที่กำลังคิกผู้กู้ซื้อบ้านสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรงของตนเองได้ โดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด มีบริการตรวจเครดิตบูโรหลากหลายช่องทาง สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
5. ปิดบัญชีหนี้ให้หมดก่อนยื่นกู้เงินซื้อบ้าน
เป็นประเด็นสืบเนื่องจากข้อ 1 เมื่อมีภาระหนี้เดิมอยู่ก็จะทำให้เรามีวงเงินกู้เงินซื้อบ้านต่ำลง ดังนั้นภาระหนี้ใดที่สามารถโปะเงินปิดบัญชีให้เรียบร้อยได้ควรทำทันทีก่อนจะยื่นกู้ซื้อบ้าน แม้ว่าจะเหลือระยะเวลาไม่มาก เช่น ผ่อนค่าโทรศัพท์มือถือ แม้ว่าจะเหลืออีกเพียง 3 เดือนจะผ่อนหมด แต่ ณ ช่วงเวลาที่ยื่นกู้เงินซื้อบ้าน ธนาคารจะถือว่าเรามีภาระหนี้ส่วนนี้อยู่
6. บัตรเครดิตที่ไม่จำเป็น…จงยกเลิก
หลายคนที่ถือบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ เพราะข้อเสนอที่ยั่วยวนใจเมื่อธนาคารมาชวนสมัครบัตรเครดิต แม้ที่จริงแล้วจะไม่ค่อยได้ใช้งานก็ตามแต่ธนาคารจะมองว่าผู้กู้มีโอกาสสร้างหนี้สูงขึ้นในภายหลังจากบัตรเครดิต ซึ่งจะทำให้โอกาสการอนุมัติสินเชื่อบ้านต่ำลง ดังนั้น ก่อนยื่นกู้เงินซื้อบ้านควรจะขอยกเลิกบัตรเครดิตให้เหลือเพียง 1-2 ใบเท่านั้น
7. เตรียมเอกสาร สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน หลักฐานรายได้พิเศษ
ขั้นตอนการซื้อบ้านขั้นตอนสุดท้าย เป็นการเตรียมเอกสารเมื่อจะยื่นกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร ซึ่งส่วนที่อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ หลักฐานการทำงานและรายได้ต่าง ๆ เช่น สลิปเงินเดือน ใบรับรองการทำงาน ที่เราอาจจะต้องเดินเรื่องขออนุมัติจากหน่วยงานต้นสังกัด และบางหน่วยงานอาจจะใช้เวลานานกว่าจะได้รับอนุมัติ การเตรียมตัวก่อนจึงสำคัญที่จะทำให้การยื่นกู้เงินซื้อบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น
THE BANGKOK RESIDENCE
"Real Estate for Happiness"
Contact us now
Call Center : 1319
Line @bkkresidence
1. Know your borrowing ability and the amount of the home installment with the bank
The formula for calculating the price of a house that can be borrowed to buy a house is It can be roughly calculated using the formula (monthly income) that can be salvaged Some banks may move the amount of income up or down depending on the criteria considered in the home loan process. This limit is considered to be the limit given if you have no debt at all, so you need to take a look. Our "debt to income" or bank terminology is called the DSR (Debt Service Ratio), which mostly allows home borrowers to have a debt burden of 30-40% of their income, so the formula is (income per month) 000 baht debt burden that Refers to every debt that you have. Whether it's car payments mobile phone Electrical appliances, etc. Therefore, assuming that you have a car payment debt of 8,000 baht per month, your ability to make house payments with the bank that is remaining available is only 1,000-4,000 baht. You will calculate back how much you can borrow to buy a house using the formula. This (1,000,000 ÷ 7,000) x (Ability to make home payments with the project) = (Amount that can be borrowed) for example (1,000,000 ÷ 7,000) x 4,000 = Home loan available at a price of 571,429 baht *This case requires that the borrower has debt burden. 40% when knowing your ability to make home installment payments with the bank and the price of the house that can be borrowed for oneself Then choose to find a place to live that meets your heart and is suitable for your abilities. 000) x (Ability to repay home installments with the project) = (Amount that can be borrowed) for example (1,000,000 ÷ 7,000) x 4,000 = Can get a home loan at a price of 571,429 baht *In this case, the borrower is required to have a debt burden of 40% when known. Ability to make home installment payments with the bank and the price of the house that can be borrowed for oneself Then choose to find a place to live that meets your heart and is suitable for your abilities. 000) x (Ability to repay home installments with the project) = (Amount that can be borrowed) for example (1,000,000 ÷ 7,000) x 4,000 = Can get a home loan at a price of 571,429 baht *In this case, the borrower is required to have a debt burden of 40% when known. Ability to make home installment payments with the bank and the price of the house that can be borrowed for oneself Then choose to find a place to live that meets your heart and is suitable for your abilities.
2. Save up for a down payment.
While searching Another important thing in the home buying process is We should also save money for a down payment on a house or condominium. Because the bank's rule is that they can give out home loans up to 90% of the house price. For example, for a house price of 1 million baht, the bank will lend a maximum of 9 hundred thousand baht. The other 1 hundred thousand baht is therefore cash that we have to pay directly to the project developer. so Various housing projects have programs that allow us to make monthly down payments on the project while the project is still under construction. (Banks will make loans once the home is built.) A down payment is generally 10-20% of the price. For example: The price of a single house is 5 million baht, charging a down payment of 10% = 5 hundred thousand baht with a down payment of 10 months = paying an average house down payment of 50 per month, 000 baht with a relatively high monthly down payment on a house. This causes us to prepare to save some money first to use as a down payment on a house. However, due to the relaxation of measures to control mortgage loans or LTV, buyers of houses and condos (Project completed and ready to move in) 100% loan available (until December 2022)
3. Make a beautiful bank account statement.
The next part of the home buying process It is a matter of documents when applying for a home loan. The bank will ask to see your bank account for the past 6 months. During these 6 months, there should be money in the account regularly. It should not be completely withdrawn. And if you have extra monthly income Or work as a freelancer or seller who receives money on a one-time/daily basis. It should also be transferred into the account regularly.
4. Pay your debts on time.
Another thing that the bank will check is the "Credit Bureau" which will have the borrower's debt repayment history for the past 3 years. In these 3 years, if the debt has not been repaid on time. Or what is often called being on the "blacklist" which is the definition of “Those with a history of poor debt repayment or unable to repay debt according to the agreement” are considered borrowers who are at risk of being in bad debt. Therefore, if they borrow to purchase any products or pay credit card bills. You should pay on time every time. Because being blacklisted can cause banks to completely refuse to lend money to buy a home. Anyone who is considering a home loan can check their own creditworthiness. The National Credit Bureau Company Limited offers checking services. Various credit bureau channels You can see more here.
5. Close all debt accounts before applying for a home loan.
It is a continuation of point 1. When there is existing debt, it will cause us to have a lower home loan limit. Therefore, any debt that can be covered with money to close the account should be done immediately before applying for a home loan. Even if there is not much time left, such as paying installments for a mobile phone. Even though there are only 3 months left until the payments are all gone, at the time of applying for a home loan. The bank will assume that we have this debt.
6. Unnecessary credit cards…cancel
Many people hold more than one credit card because of tempting offers when banks invite them to apply for a credit card. Even though it is rarely used, banks will see that borrowers have a higher chance of incurring debt later on from credit cards. This will lower your chances of being approved for a home loan. Therefore, before applying for a home loan, you should request to cancel only 1-2 credit cards.
7. Prepare documents: salary slips work certificate Evidence of extra income
The final step in buying a home It is the preparation of documents when applying for a home loan with the bank. The part that may require special care is evidence of work and income such as payslips. work certificate We may have to go about asking for approval from the parent agency. And some agencies may take a long time to receive approval. Preparation in advance is important to make applying for a home loan go smoothly.