Thebkkresidence.com
..............ครึ่งปีผ่านไป อสังหาฯ ไทยเป็นอย่างไรบ้าง? และทิศทางต่อจากนี้เข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ปี 2566 มาสักพักแล้ว ในช่วงที่ผ่านประเทศไทยเจอกับสถานการณ์ท้าทายหลายอย่าง ทั้งด้านเศรษฐกิจที่เจอทั้งปัญหาเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยขาขึ้น ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง รวมถึงการเมืองที่กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นธุรกิจที่ต้องจับตาต่อเนื่อง เพราะเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงมาก มีสัดส่วนกว่า 10% ของ GDP ภายในประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก เช่น ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า การตกแต่ง รวมถึงกลุ่มสถาบันการเงิน
ดังนั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงมักได้รับผลกระทบจากภาพเศรษฐกิจการเมืองเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นทางฝั่งของผู้บริโภค นักลงทุน รวมถึงบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ
ส่องสถานการณ์อสังหาฯ ไทยช่วงครึ่งปีแรก 2566
ภาคอสังหาฯ มีความหวังมาตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่เมื่อผ่านไปแค่ช่วงครึ่งปีแรก 2566 ตลาดอสังหาฯ ยังไม่กลับมาสดใสมากนัก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ( REIC ) รายงานว่าพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และจังหวัดสำคัญ รวม 27 จังหวัด มีจำนวนอุปทานเสนอขายทั้งสิ้น 3.2 แสนยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท
เฉพาะยูนิตเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 มีจำนวนเกือบ 6.5 หมื่นยูนิต ลดลง 11.6% ส่วนมูลค่าอยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งก็ลดลง 10.9% ด้วยเช่นกัน โดยผู้พัฒนาอสังหาฯ ส่วนใหญ่เน้นระบายขายยูนิตเดิมก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังด้วย
มาดูทางด้านของอุปสงค์กันบ้าง ยูนิตที่ขายได้ใหมในช่วงครึ่งปีแรก 2566 อยู่ที่ราวๆ 5.7 หมื่นยูนิตมูลค่า 2.58 แสนล้านบาท ลดลง 27.7% และ 24.1% ตามลำดับ เป็นไปตามสภาพตลาดในปัจจุบันที่ยังไม่กลับมาคึกคักมากนัก บวกกับมีความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศขึ้นอีกหลายรอบ ทำให้สถาบันการเงินต่างๆ ทยอยปรับขึ้นตาม กระทบต่อดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย ทำให้ผู้บริโภคที่กู้เงินซื้อบ้านต้องแบกรับดอกเบี้ยในเรทที่สูงกว่าเดิม และไม่แน่ว่าอาจจะปรับขึ้นอีกครั้งในการประชุม กนง.รอบถัดไป
ดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นนี้ส่งผลทำให้ค่ใช้จ่ายในการผ่อนบ้านต่อเดือนสูงขึ้น บ้างก็ต้องใช้เวลาในการผ่อนนานขึ้นด้วย หลายคนจึงตัดสินใจชะลอกู้เงินซื้อบ้านออกไปก่อนระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ ผู้บริโภคบางส่วนยังต้องเผชิญกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงอยู่แล้ว ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทยสูงถึง 90% ของ GDP ผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคาต่ำกว่า 2-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผู้ซื้อระดับรายได้น้อย-ปานกลาง
แต่ในทางกลับกัน กลุ่มผู้ซื้อที่มีรายได้สูงไม่ได้ผลกระทบทางเศรษฐกิจมากนัก ยกตัวอย่างในไตรมาส 2ที่ผ่านมา ภาพรวมจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยกลุ่ม Luxuy ขึ้นไป ราคา 7.5 1-10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงสุด 16% เช่นเดียวกับที่อยู่อาศัยกลุ่มราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป หน่วยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 12.4% โดยมูลค่า ของบ้านหรูก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
หรือจะเป็นตลาดคอนโดมิเนียม ที่พบว่าในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดใหม่ ในกลุ่มราคา 2.01-3.00 ล้านบาท ลดลงมากถึง 20.2% แต่หลายคนเปลี่ยนไปซื้อห้องชุดมือสองในระดับราคาเดียวกันแทน เพราะได้อยู่ในโลเคชันที่สะดวกสบาย ได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องมากกว่า เป็นต้น จะเห็นว่าผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าที่มากขึ้น
ส่วนคอนโดมิเนียมระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป พบการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้นมากที่สุด ถึง 52.4% และห้องชุดมือสองในระดับราคาเดียวกันอยู่ที่ 33.3% นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีรายได้น้อย ได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มที่มีรายได้สูง ทำให้พักหลังมานี้จะเห็นบริษัท Developer หลายแห่งหันมาเน้นพัฒนาโครงการระดับพรีเมียมมากขึ้น เช่น บ้านเดี่ยวหรู 10 ล้านบาทขึ้นไป หรือคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์
ทิศทางตลาดอสังหาฯ ไทย ภายใต้รัฐบาลใหม่
ตอนนี้ประเทศไทยได้รัฐบาลใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว นำโดยนายกรัฐมนตรี คุณเศรฐา ทวีสิน ซึ่งเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพยั ดังนั้นทิศทางธุรกิจอสังหาฯ ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป คงเป็นคำถามสำคัญที่หลายฝ่ายอยากจะรู้
ประเด็นแรกคือความเชื่อมั่น หลังจากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จแล้ว หลายฝ่ายรู้สึกไว้วางใจมากขึ้นสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเมืองดูจะเป็นไปในทิศทางบวก ภายใต้หัวเรืออย่างพรรคเพื่อไทยที่ได้เป็นผู้นำรัฐบาลในครั้งนี้ โดยมีนโยบายหลายอย่างที่น่จับตาว่าจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์ภาคครัวเรือนในระยะสั้นหายใจคล่องมากขึ้น เช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจ 5.6 แสนล้านบาท ผ่านกระเป๋าเงิน Digital Wallet นโยบายลดค่าครองชีพ ลดค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่โดยสารรถฟฟ้า, นโยบายช่วยเหลือ MEs พร้อมกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย ผ่านฟรีวีซ่าชาวจีน เป็นต้น
ก่อนจะลุยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว เช่น การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนเด็กจบใหม่, นโยบายสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท, ผลักดัน Soft Power และพัฒนาเศรษฐกิจนวัตกรรม เป็นต้น ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นไปได้จริงและประสบความสำเร็จหรือไม่
ที่มาภาพ : ไทยรัฐออนไลน์
นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับภาคอสังหาริมทรัพย์โดยตรงด้วย มีหลายฝ่ายเสนอให้รัฐบาลออกมาตรการอสังหาฯ เพื่อช่วยเหลือทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เช่น
- มาตรการผ่อนคลายอัตราส่วนการให้สินเชื่อโดยเทียบกับมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value : LTV) - ทบทวน โครงสร้างภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง - ขยายระยะเวลามาตรการลดค่าโอน ค่าจดจำนอง - นโยบายสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตัวเอง - มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อจากชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีศักยภาพสูง ฯลฯ
อย่างไรก็ตามมาตรการอสังหาฯ ก็ควรดำเนินการควบคู่ไปกับนโยบายเศรษฐกิจอื่นๆ ที่จะเข้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง เพิ่มรายได้ให้ประชาชน และควบคุมราคาค่ครองชีพ หากทำได้อย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะธุรกิจอสังหาฯ หรือธุรกิจอื่นใดก็คงใจชื่นมากขึ้น เศรษฐกิจคงเห็นทิศทางที่สดใสขึ้นต่อจากนี้
บทความโดย : คุณ พัทร ภาณุนันทน์ Content Creator - อสังหาริมทรัพย์
อ้างอิงข้อมูล : https://www.reic.or.th/Activities/PressRelease/185 https://www.krungsri.com/th/research/inustty/industy-utlook/real-estate/housing-in-upcountry/io/io-housing-in-upcountry-2023-2025
..............Half a year has passed. How is Thai real estate? And the direction from now on into the second half of 2023 has been around for a while. During the period, Thailand encountered many challenging situations. Both the economic side is faced with the problem of inflation. Interest rates are rising The problem of high household debt Including politics that are currently in a period of government transition. For the Thai real estate sector, it is a business that must be continually monitored. Because it is a business with a very high market value. It accounts for more than 10% of the country's GDP, driving the economy through many related businesses such as construction. furniture business electrical appliances, decorations, including financial institutions
Therefore, the real estate business Therefore, they are often affected by the political economy as well. Whether it be on the side of consumers, investors, including real estate development companies.
Look at the real estate situation Thailand in the first half of 2023
The real estate sector has been hopeful since the beginning of the year. But when only the first half of 2023 has passed, the real estate market has not yet returned to much brightness. The Real Estate Information Center (REIC) reports that the Bangkok-metropolitan area and important provinces, totaling 27 provinces, with a total supply of 320,000 units offered for sale, with a total value of approximately 1.4 trillion baht.
Only new units launched in the first half of 2023 amounted to nearly 65,000 units, a decrease of 11.6%, while the value was 270 billion baht, which also decreased 10.9% by real estate developers. Most of them focus on selling the same units as before. As well as waiting to see the new government policy. There are also plans to launch additional new projects in the second half of the year.
Let's look at the demand side. Newly sold units in the first half of 2023 were approximately 57,000 units worth 258 billion baht, a decrease of 27.7% and 24.1%, respectively, in accordance with current market conditions that have not yet returned to much activity. Plus, there is the risk of the policy interest rate that the Bank of Thailand has announced to increase several times. making various financial institutions Gradually adjust accordingly. Affecting housing interest rates As a result, consumers who borrow money to buy a home must bear interest at a higher rate than before. and it is uncertain that it may be raised again in the next MPC meeting.
This increase in interest rates results in higher monthly home loan payments. Some require longer periods of time to pay off. Many people have decided to postpone their home loan for a while.
In addition, some consumers still face the problem of already high levels of household debt. Currently, Thai household debt is as high as 90% of GDP. People are more careful with their spending than ever before. Causing the real estate business to be inevitably affected. Especially in the residential group priced below 2-3 million baht, which are low-middle income level buyers.
But on the other hand Buyers with high incomes did not experience much economic impact. For example, in the second quarter of the past, the overall number of ownership transfers of residences in the Luxuy group and above, priced at 7.5 1-10 million baht, increased up to 16%, as well as residences in the group priced at 10 million baht and above. Ownership transfer units increased 12.4%, with the value of luxury homes also increasing.
Or is it the condominium market? It was found that in the second quarter of the past, ownership transfer units for new condominiums in the price group of 2.01-3.00 million baht decreased by as much as 20.2%, but many people switched to buying second-hand condominiums in the same price range instead. because it is in a convenient location Get more usable space in the room, etc. It can be seen that consumers decide to buy housing by considering greater value for money.
As for condominiums priced more than 10 million baht and above. Ownership transfers were found to have increased the most, reaching 52.4%, and second-hand condominiums at the same price level were at 33.3%. This is just an example that reflects the purchasing power of low-income consumers. Affected more than those with high incomes As a result, recently we have seen many developer companies turn to focus on developing more premium projects, such as luxury detached houses worth 10 million baht or more. or high-end condominiums
Direction of the Thai real estate market under the new government
Thailand now officially has a new government. Led by the Prime Minister, Ms. Settha Thavisin, who is a real estate businessman. Therefore, the direction of the real estate business What will happen next? It is probably an important question that many parties would like to know.
The first issue is confidence. After the government was successfully established Many parties feel more trustworthy. The economic situation and political stability appear to be in a positive direction. Under the leadership of the Pheu Thai Party that is leading the government this time. There are many policies worth keeping an eye on that will help make the household situation easier in the short term, such as stimulating the economy by 560 billion baht through the Digital Wallet, policies to reduce living costs, electricity bills, gas bills, and electric rail fares. , Policy to assist MEs and stimulate the Thai tourism sector Attracting foreign tourists to Thailand Free Chinese visa pass, etc.
Before moving forward with policies to stimulate the economy in the long term, such as raising the minimum wage and salaries for new graduates, policies to encourage every household to have an income of at least 20,000 baht, pushing soft power and developing an innovative economy, etc., which must wait. Let's continue to see whether it is actually possible and successful or not.
Image source: Thairath Online
There are also policies directly related to the real estate sector. There are many parties proposing that the government issue real estate measures. To help both consumers and entrepreneurs, such as
- Measures to relax the ratio of lending relative to the value of collateral (Loan to Value: LTV) - Review the land and building tax structure - Extend the period of measures to reduce transfer fees and mortgage fees - Policy to encourage low-income earners to own homes own - measures to stimulate purchasing power from foreigners Especially groups with high potential, etc.
However, real estate measures It should be implemented in conjunction with other economic policies. to solve the problem of high levels of household debt Increase income for the people and control the cost of living If it can be done sustainably Whether it's the real estate business or any other business would be more cheerful The economy will likely see a brighter direction from now on.
Article by: Mr. Pat Panunan Content Creator - Real Estate
Reference information: https://www.reic.or.th/Activities/PressRelease/185 https://www.krungsri.com/th/research/inustty/industy-utlook/real-estate/housing-in-upcountry/ io/io-housing-in-upcountry-2023-2025