Thebkkresidence.com
ระหว่างรอคณะรัฐมนตรีชุด เศรษฐา 1 ที่น่าจะเสนอแต่งตั้งได้ภายในเดือน กันยายน 2566 นี้ เราจะวิเคราะห์ว่า นโยบายรัฐบาลชุดนี้ จะเป็นคุณเป็นโทษ กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือไม่ อย่างไร เราคงต้องกลับไปดูนโยบายทางด้านที่ดินและที่อยู่อาศัยที่พรรคแกนนำในการจัดตั้งในครั้งนี้ ได้เคยหาเสียงไว้ว่ามีนโยบายเด่น ๆ อะไรบ้าง คงต้องเริ่มที่ พรรคเพื่อไทย ก่อนเลย เพราะนอกจากจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว นายกเศรษฐา ยังจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสียเองด้วย นัยว่าเพื่อจะได้มีความสะดวกในการออกนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเงินดิจิตอล 10,000 บาท และ นโยบายอื่น ๆ ที่มีผลต่อปากท้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ที่มา : เนชั่นออนไลน์ ข้อมูล ณ 28 สิงหาคม 2566
พรรคเพื่อไทย มีนโยบาย เร่งรัดออกโฉนด แก้กฎหมาย พิสูจน์สิทธิ์จัดหาที่ทำกิน 50 ล้านไร่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ
หลักคิด
1. ประชาชนทุกคนต้องมีที่ดินเป็นของตนเอง เกษตรกรทุกครัวเรือน จะมีที่ทำกินอย่างพอเพียง
2. ดำเนินการให้มีการออกโฉนดให้กับประชาชน 50 ล้านไร่ โดยแปลงที่ดินที่มีความขัดแย้ง ไปเป็นที่ดินวนเกษตร ต้นไม้ทุกต้นมีราคา
3. ที่ดินที่เป็นโฉนดจะถูกใช้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน นำไปสู่สภาวะเป็นกลางทางคาร์บอน และสร้างรายได้จากคาร์บอนเครดิต
ซึ่งโดยรวม นโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน และเป็นเกษตรกรรม เป็นหลัก มากกว่านโยบายด้านที่อยู่อาศัยของคนเมือง ที่ยังไม่ปรากฏนโยบายด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรม เท่ารัยนัก
พรรคภูมิใจไทย นโยบายพรรคอันดับสองของรัฐบาลชุดนี้ คือ การนำนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่สามารถต่อ
ยอดไปสู่การพัฒนาเมืองในระดับภูมิภาค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งนโยบาย Wellness Resort of The World รักษาเมืองหลัก ฟื้นฟูเมืองรอง ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายแห่งการรักษา พักผ่อน และ ฟื้นฟู ร่างกายจิตใจ ของประชากรโลก นอกจากนี้ยังมีนโยบายสร้าง Landbridge อ่าวไทย-อันดามัน ยกระดับการคมนาคมของประเทศ ผลักดันรถเมล์ไฟฟ้า เพื่อลด PM 2.5 และจะเปลี่ยนระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด ให้มาเป็นรถไฟฟ้าภายใน 3 ปี
พรรครวมไทยสร้างชาติ มีนโยบายพัฒนาที่อยู่อาศัยที่สานต่อมาจากรํฐบาล พล.อ. ประยุทธ มีโครงการ บ้านประชาสุข โดยมีเป้าหมายสร้างบ้านประชาสุข 1 แสนหลัง ภายใน 5 ปี พร้อมกับนโยบายสนับสนุนสินเชื่อบ้านล้านหลัง สำหรับผู้มีรายได้น้อย , เฟสที่ 3 โครงการบ้านมั่นคง ริมคลองเปรมประชากร , โครงการฟื้นฟูแฟลตดินแดง เฟส 2, การเดินหน้าพัฒนาทำโครงสร้างพื้นฐาน EEC ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค และ การแก้ปัญหาได้ที่ทำกิน ไม่โดนไล่ที่ ไม่ถูกฟ้อง
พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายโครงการ บ้านสุขใจวัยเกษียณ ให้กับผู้สูงอายุวัยเกษียณ การสร้างเมืองอัจฉริยะสีเขียว มีการนำโมเดลของการพัฒนาพิเศษ EEC มาต่อยอดสู่ภูมิภาคอื่น ๆ เช่น อีสาน 4.0 , ล้านนา 4.0 และ ด้านขวาน 4.0 , โครงการสร้างเมืองน่าอยู่ ใกล้บ้านมีงานทำ ด้วยแนวคิด 15 เมืองหลัก 15 เมืองรอง พยายามจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างที่อยู่อาศัย พัฒนาย่านธุรกิจ รวมถึงการสร้างเมืองสีเขียว การจัดสิทธิที่ทำกินให้กับเกษตรกร
จากการพิจารณานโยบาย 4 พรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ต้องเรียกว่านโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกันเกือบทั้งหมด โดยมี 2 แนวทางหลักของนโยบาย แบ่งเป็น
- ถ้าเป็นชนบท ก็จะออกมาแนวการจัดกรรมสิทธิ์ที่ทำกิน การลดโลกร้อน เพื่อตอบสนองฐานเสียงของตน โดยต่างจังหวัดที่เกษตรกรรม และ เกษตรกร ยังเป็นฐานเสียงหลักอยู่ จะขาดนโยบายเอาใจรากหญ้าเป็นไปไม่ได้
- ถ้าเป็นฐานเสียงในเมือง ก็จะเป็นนโยบายสร้างที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และการสร้างที่อยู่อาศัยให้คนจนเมือง ต่าง ๆ ตลอดจนนโยบายที่ได้ทั้งฐานเอกชน คือ การสร้างสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่สนับสนุนทั้งการลงทุน และ อำนวยความสะดวกให้แก่ ผู้อยู่อาศัยในเมืองที่เผชิญกับปัญหาการจราจรติดขัด และต้นทุนการเดินทางระหว่างวันที่สูงติดอันดับโลกอยู่ในขณะนี้ ก็น่าจะโกยคะแนนเสียงคนเมืองไปได้ไม่ใช่น้อยทีเดียว
โดยรวม ๆ ถือว่านโยบายของพรรคแกนนำ น่าจะเอื้อประโยชน์ต่อทั้งนักลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และ
ประชาชนในแทบทุกระดับของประเทศ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองเสียที แต่ว่ากันไป ในปัจจุบันการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต้องมีการขออนุญาตจากกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานราชการไทยหลายหน่วยงาน การทำโครงการแต่ละโครงการ ต้องติดต่อหน่วยราชการ 10-20 หน่วยงานเป็นอย่างต่ำ ตัวอย่างเช่น การทำโครงการคอนโดมิเนียมสัก 1 โครงการ ก็ต้องเริ่มจากการขอใบอนุญาตก่อสร้างจากกทม. ใบอนุญาต EIA จากสำนักคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (สวล.) กระทรวงทรัพย์ฯ ถ้ามีเชื่อมทางก็แล้วแต่ว่าทางนั้นอำนาจของหน่วยใด เชื่อมท่อระบายน้ำก็เช่นเดียวกัน ขยายเขตไฟฟ้าก็ต้องการไฟฟ้า ขอน้ำประปาก็การประปา ถ้ามีทางหรือที่ดินรัฐมาขวางหน้าที่ดินและโครงการต้องการออกสู่ทางสาธารณะก็มีทั้ง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม.) หรือราชพัสดุต่าง ๆ และก็ต้องตรวจสอบให้ดีว่าหน่วยงานเหล่านั้นอนุญาตได้จริงรึป่าว อย่างกรณี โครงการแอชตัน อโศก ก็เห็นเป็นบทเรียนกันอยู่ว่ามีปัญหาเช่นไร และถ้าสุดท้ายก่อสร้างทุกอย่างเรียบร้อยจะต้องไปโอนให้ลูกค้า ก็ต้องไปที่สนง.ที่ดิน ภายใต้กระทรวงมหาดไทย โดยใช้ราคาประเมินของกระทรวงการคลังเพื่อเสียภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นว่าแต่ละขั้นตอนก็ยุ่งยากซับซ้อนและเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ภาคเอกชนเองก็เคยเรียกร้องขอ one stop service กันมากว่า 30 ปี ก็ไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด ไม่มีรัฐบาลไหนตอบสนอง ก็ยังเป็นที่สงสัยกันอยู่ว่าที่ทำไม่ได้ เพราะมันทำไม่ได้จริง ๆ หน่วยงานรัฐก็บอกแต่เพียงว่ากฎหมายถือคนละฉบับ ต้องแก้กันวุ่นวาย เค้าไม่มีอำนาจจะทำได้ขนาดนั้น หรือเอาจริง ๆ ให้มันยุ่งยากซับซ้อนแบบนี้แหละดีแล้ว มันจะได้มีช่องทางทำมาหากินได้สะดวกดี
ดังนั้นรัฐบาลแบบพรรคร่วมแบบนี้ ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็กระจัดกระจายกันไปตามโควต้าแต่ละพรรค ทำให้ขาดเอกภาพในการทำงานเข้าไปอีก โอกาสที่บูรณาการจริง ๆ เห็นจะเป็นเรื่องยาก บางคนบอกว่า คราวนี้เป็นโอกาสดีของ Developer เลยนะ เพราะนายกเศรษฐาเป็น Developer เก่าเข้าใจเรื่องนี้ คงจะแก้ปัญหาได้ตรงจุดไม่ต้องมาอธิบายกันให้เสียเวลา ซึ่งถ้าเอาจริง ๆ บางทีก็อาจจะทำได้นะ แต่อีกด้านนึงของเหรียญคือ นายกเศรษฐา อาจจะไม่กล้าแตะต้องเรื่องพวกนี้เลยก็ได้ เพราะคงมีคนคอยจับผิดว่า แก้กฎหมายเอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องนั่นเอง ก็คงต้องตามลุ้นกันต่อไปว่า คราวนี้จะออกหัวหรือก้อยกันแน่
THE BANGKOK RESIDENCE "Real Estate for Happiness" Contact us now Call Center : 1319 Line @bkkresidence
While waiting for Settha 1's Cabinet, which should be able to propose appointments within September 2023, we will analyze that This government policy Will you be punished? With the real estate business or not, we must go back and look at the land and housing policies that the leading party has established this time. He had been campaigning for what outstanding policies he had. He would have to start with the Pheu Thai Party first, because in addition to being Prime Minister, Mr. Settha would also hold the position of Minister of Finance himself, allegedly in order to have confidence. Convenient in issuing economic policies Especially the 10,000 baht digital currency and other policies that affect people's lives more effectively.
Source: Nation Online, information as of 28 August 2023
Pheu Thai Party has a policy to expedite the issuance of title deeds, amend laws, prove rights to acquire 50 million rai of land, and increase green space throughout the country.
principles
1. Every citizen must have their own land. every farmer household There will be enough land to eat.
2. Proceed with the issuance of title deeds to the people of 50 million rai of land plots in conflict. to become agroforestry land Every tree has a price.
3. The title deed land will be used as green space. To solve the problem of global warming Leading to carbon neutrality and generate income from carbon credits
which overall, the policy of the Pheu Thai Party It is a solution to the agricultural land problem. and is mainly agriculture rather than housing policy for urban people. There hasn't been any concrete policy in this area yet.
Bhumjaithai Party The second party policy of this government is to adopt a tourism policy that can continue.
leading to regional urban development and infrastructure development Including the Wellness Resort of The World policy to preserve the main city. Secondary city restoration Push Thailand to be a destination for healing, resting, and rehabilitating the body and mind of the world's population. There is also a policy to build a Landbridge between the Gulf of Thailand and Andaman. Raise the country's transportation level Push electric buses to reduce PM 2.5 and will change the entire public transportation system. to become an electric train within 3 years
Ruam Thai Sang Chat Party There is a housing development policy that continues from the government of Gen. Prayut. There is the Prachasuk House project, with the goal of building 100,000 public houses within 5 years, along with a policy to support loans for a million homes. For low income earners, Phase 3, Baan Mankong Project. Along the Prem Prachakorn Canal, the Din Daeng Flats Rehabilitation Project Phase 2, moving forward with the development of EEC infrastructure, the 4 new economic corridors, and solving the problem of having land to farm, not being evicted, not being sued.
Palang Pracharath Party There is a project policy. Happy retirement home for elderly people of retirement age Building a green smart city The EEC special development model has been extended to other regions, such as Isaan 4.0, Lanna 4.0 and Khwan 4.0, livable city creation projects. Close to home, there is work to be done with the concept of 15 main cities and 15 secondary cities, trying to get people to participate in infrastructure development. building a residence Business district development Including creating a green city. Arrangement of land rights for farmers
From considering the policies of the 4 leading parties in forming the government It must be said that the policy is almost in the same direction, with 2 main approaches to the policy, divided into
- If it is a rural area, they will come out with guidelines for organizing land ownership and reducing global warming to satisfy their vote base. In the provinces where agriculture and farmers are still the main voting base. It is impossible to lack policies to please the grassroots.
- If it is a voice base in the city It will be a policy to build housing for low-income people. and building housing for poor people in various cities, as well as policies that have both a private base, namely the creation of various public utilities that support both investment and provide convenience for people. City residents face traffic congestion. And the cost of day travel is currently among the highest in the world. It should probably scoop up quite a few votes from the people of the city.
Overall, it is considered that the policy of the leading party It should be beneficial to both investors in the real estate sector and
People at almost every level of the country Especially those with low incomes to have your own home, but having said that, at present doing real estate business requires permission from many ministries, bureaus, departments, and Thai government agencies. Doing each project You must contact at least 10-20 government agencies. For example, starting with a condominium project, you must begin by requesting a construction permit from Bangkok. EIA license from the Office of the National Environmental Commission (NHL), Ministry of the Treasury. If there is a connecting route, it depends on which agency's authority is that route. The same is true for connecting drainage pipes. Expanding the electrical area requires electricity. Ask for tap water, tap water. If there is a road or government land blocking the front of the land and the project wants to go onto a public road, there are both. State Railway of Thailand (SRT) Metropolitan Rapid Transit Authority (MRTA) ) or various government properties and must check carefully to see if those agencies really give permission or not. As in the case of the Ashton Asoke project, it can be seen as a lesson that there are problems. And if everything is completed in the end, it must be transferred to the customer. You have to go to the land office. Under the Ministry of Interior Using the assessed value of the Ministry of Finance to pay taxes and various fees, it can be seen that each step is complicated and costs a lot of time and expenses. The private sector has also been asking for one stop service for more than 30 years without any success. No government responded. It is still doubtful that this cannot be done. Because it really can't be done, government agencies only say that the law is different. We have to solve the mess. He doesn't have the power to do that much, or really, it's better to make it complicated like this. It will have a convenient way to earn a living. Land under the Ministry of Interior Using the assessed value of the Ministry of Finance to pay taxes and various fees, it can be seen that each step is complicated and costs a lot of time and expenses. The private sector has also been asking for one stop service for more than 30 years without any success. No government responded. It is still doubtful that this cannot be done. Because it really can't be done, government agencies only say that the law is different. We have to solve the mess. He doesn't have the power to do that much, or really, it's better to make it complicated like this. It will have a convenient way to make a living. Land under the Ministry of Interior Using the assessed value of the Ministry of Finance to pay taxes and various fees, it can be seen that each step is complicated and costs a lot of time and expenses. The private sector has also been asking for one stop service for more than 30 years without any success. No government responded. It is still doubtful that this cannot be done. Because it really can't be done, government agencies only say that the law is different. We have to solve the mess. He doesn't have the power to do that much, or really, it's better to make it complicated like this. It will have a convenient way to make a living. Government agencies only say that the law is different. We have to solve the mess. He doesn't have the power to do that much, or really, it's better to make it complicated like this. It will have a convenient way to earn a living. Government agencies only say that the law is different. We have to solve the mess. He doesn't have the power to do that much, or really, it's better to make it complicated like this. It will have a convenient way to earn a living.
Therefore, this type of coalition government As a result, agencies involved in the real estate business are scattered according to each party's quota. causing a lack of unity in working further The opportunity for true integration appears to be difficult. Some people say that this time is a good opportunity for developers because Prime Minister Settha is a former developer and understands this. It would solve the problem right away without wasting time explaining. Which, if you're really serious, maybe you can do it. But the other side of the coin is that Prime Minister may not dare touch these matters at all. Because there are probably people waiting to find fault. Change the law to benefit yourself and your friends. It must be continued to find out. Will it be heads or tails this time?