Thebkkresidence.com
5 ข้อควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโด
ปัจจุบันนี้ หนึ่งในการสร้างความสุขในใจของคนเราได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือ การเลี้ยงสัตว์ค่ะ เพราะสัตว์เลี้ยงสามารถเป็นเพื่อนกับเราในยามที่เราเหงาได้ และยิ่งในช่วงเวลาที่เราต้องกักตัวอยู่ในคอนโดกัน อาจทำให้ใครหลายคนอยากจะเริ่มหาสัตว์เลี้ยงมาไว้กันบ้างแล้ว
ต้องบอกก่อนว่าการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ สิ่งสำคัญคือเราต้องคำนึงถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ ของคอนโดที่เราอยู่ รวมทั้งปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านในคอนโด ในวันนี้ จึงมีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับใครที่คิดจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียม ว่าเราควรจะเตรียมตัวหรือมีข้อควรรู้อย่างไร
1.เลือกคอนโดแบบ Pet – Friendly
ข้อเริ่มต้นนี้ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะเราไม่ควรแอบเอาสัตว์มาเลี้ยงโดยเด็ดขาดถ้าหากทางคอนโดเขาไม่อนุญาต เพราะเราเองก็คงใช้ชีวิตแบบไม่มีความสุข ต้องคอยหวาดระแวง หลบๆ ซ่อนๆ กลัวว่าจะถูกใครจับได้ อีกทั้งยังอาจต้องกักบริเวณเจ้าสัตว์เลี้ยงของเราเอง ทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความเครียดตามไปด้วย เรียกว่าไม่มีความสุขทั้งผู้เลี้ยงและสัตว์เลี้ยงเลยทีเดียวค่ะ
แต่ถ้าคอนโดไหนเขาอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ก็ต้องไปดูกฎระเบียบของเขาอีกว่า สัตว์ชนิดไหนบ้างที่เลี้ยงได้ ชนิดไหนที่ห้ามเลี้ยง หรือสัตว์ที่เลี้ยงต้องมีขนาดตัวหรือจำนวนมากน้อยแค่ไหน ก็จะต้องไปตรวจสอบกันให้ดี หากไม่แน่ใจ อาจจะลองขอคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่นิติบุคคลประจำโครงการของคอนโดที่เขาดูแลก่อน ก็จะดีค่ะ จะได้อุ่นใจยามหาสัตว์มาเลี้ยง ว่าถูกที่ถูกทางแล้ว
2.ตัดใจไม่เลี้ยงสัตว์ใหญ่ หรือสัตว์ที่ส่งเสียงดังน่ารำคาญ
การเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น น้องหมาตัวใหญ่ จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่มักมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้คอนโดบางแห่ง มีการกำหนดขนาดของสัตว์เลี้ยงที่สามารถนำมาเลี้ยงในคอนโดได้ แต่บางคนก็ไม่รู้หรือไม่ได้ตรวจสอบก่อนให้ดี ว่าลูกสุนัขที่น่ารักน่าเอ็นดูในวันนี้ ตอนเลี้ยงแรกๆ ก็อยู่ในห้องได้ พอดี มีที่ว่าง ที่กิน ที่นอนปกติ แต่พอโตขึ้น คอนโดก็เริ่มเล็กลง เจ้าน้องหมาในวันนั้นกลายเป็นพี่หมายักษ์ในวันนี้ ดังนั้น ต้องใส่ใจและศึกษา ลองตรวจสอบขนาดโตเต็มวัยของสัตว์ที่จะเลี้ยงด้วย เพราะถ้าวันใดวันหนึ่ง น้องหมาของเราไม่ใช่เจ้าหมาน้อยอีกต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายให้กับห้องได้ และที่ร้ายแรงไปกว่านั้น คือสัตว์เลี้ยงของเราจะเครียดเนื่องจากอยู่ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เขาไม่ได้วิ่งเล่น ไม่ได้มีพื้นที่ที่จะปล่อยพลัง มันก็น่าสงสารอยู่นะคะ
อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคำนึง คือสัตว์ที่นำมาเลี้ยงต้องไม่มีนิสัยดุร้ายหรือชอบส่งเสียงดังก่อความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านในคอนโด เพราะหากเราไม่อยู่หรือแม้แต่อยู่ด้วยก็ตาม แต่สัตว์นั้นกลับไปก่อความรำคาญหรือทำร้ายคนอื่นเข้า เราเองผู้เป็นเจ้าของสัตว์ ก็จะต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างนี้ก็ต้องลองคิดก่อนให้ดีค่ะ 3.ปัญหาเรื่องกลิ่นต้องจัดการ
ถ้าใครที่เลี้ยงแมวหรือสุนัขจะรู้ดีกว่า สิ่งที่ตามมานอกจากเรื่องของขนที่ร่วงบ่อยแล้ว ก็คือปัญหาเรื่องของกลิ่น กลิ่นอับกับคอนโดซึ่งเป็นสถานที่ที่มีจุดระบายอากาศค่อนข้างน้อย ถือเป็นฝันร้ายสำหรับคนอยู่อาศัย เพราะการอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดและตัวห้องติดๆ กันนั้น กลิ่นของสัตว์เลี้ยงที่เราชินจมูกไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร อาจจะลอยออกไปรบกวนเพื่อนบ้านก็เป็นได้ ดังนั้น เราผู้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นเหล่านั้นให้เรียบร้อย จะด้วยการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงของเราเองบ่อยๆ, การทำความสะอาดกรงหรือพื้นที่เลี้ยงสัตว์นั้นบ่อยๆ, ลองหาสเปรย์ดับกลิ่นมาฉีดพ่น หรือวางก้อนสบู่หรือก้อนน้ำหอมปรับอากาศไว้ หรือแม้กระทั้งการต่อเติมพื้นที่บางส่วนของห้อง ให้สามารถระบายอากาศได้ดีขึ้น ก็อาจจะช่วยได้อีกทางหนึ่ง
4.เก็บสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงทุกวัน
ปัญหาการกระทบกระทั่งกันที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ ของคนชอบเลี้ยงสัตว์กับคนไม่เลี้ยงสัตว์ ส่วนใหญ่มักมาจากการขับถ่ายของสัตว์ที่เราเลี้ยง หากเป็นในห้องคอนโดของเราเอง คงไม่มีใครมาวุ่นวายด้วยมากนัก แต่ถ้าต้องพาเจ้าลูกรักของเราออกไปข้างนอก ไปเดินเล่นในพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด หรือบางทีเจ้าน้องหมาน้องแมวของเรา ก็แอบเราออกไปเอง พวกสิ่งขับถ่ายที่เกิดขึ้นเหล่านี้ นอกจากจะสร้างความสกปรกให้กับพื้นที่แล้ว อุจจาระของน้อง ก็ยังเต็มไปด้วยเชื้อโรคและพยาธิมากมาย ดังนั้น หน้าที่สำคัญของผู้เลี้ยง ก็คือการเก็บสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงให้เรียบร้อย ซึ่งมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนำไปทิ้งลงชักโครก หรือจะทิ้งลงถังขยะ ก็ต้องห่อกระดาษหนังสือพิมพ์หรือใส่ถุงและผูกปิดปากถุงให้มิดชิด ทำให้เรียบร้อย และควรทำทุกวันทุกครั้ง เพราะสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยงเมื่อหมักหมมเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดเชื้อโรคและกลิ่นเหม็นได้
5.ป้องกันสัตว์เลี้ยง ไม่ให้ออกไปเพ่นพ่านข้างนอกห้อง
สัตว์เลี้ยงบางประเภทสามารถก่อความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านในคอนโดได้ หากมันหลุดออกไปเพ่นพ่าน บางคนชอบเลี้ยง นก หนู งู หรือสัตว์เลี้ยงแปลกๆ ที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมหรือกลัวก็มี หรือแม้กระทั่งน้องแมวธรรมดาที่ชอบออกไปหนีเที่ยวนอกห้อง ก็มักจะไปขับถ่ายของเสียทิ้งไว้ ฉะนั้น ถ้าหากเราจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโด อย่าลืมปิดประตูและหน้าต่างให้เรียบร้อยหากเราไม่อยู่ และหมั่นตรวจสอบกรงหรืออุปกรณ์ที่เลี้ยงสัตว์เหล่านั้น ให้แข็งแรงแน่นหนาอยู่เสมอ และหากห้องของเราอยู่ชั้นที่สูงๆ บริเวณระเบียงด้านนอก ควรติดตะแกรงหรือตาข่ายไว้อย่างมิดชิด เพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยง เช่น น้องหมาหรือน้องแมวที่กำลังซนและชอบปีนป่าย จะได้ไม่ตกลงไปข้างล่าง ซึ่งนอกจากจะเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงแล้ว ยังอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่นด้วยค่ะ
สรุปแล้ว การเลี้ยงสัตว์ในคอนโดมิเนียมไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว หรือสัตว์อื่นๆ หัวใจสำคัญ คือ ต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมอาศัยห้องคอนโดข้างเคียงเป็นหลัก เพราะทุกคนอยู่ภายในคอนโดเดียวกัน การรบกวนจะเกิดขึ้นได้มากกว่าที่พักอาศัยประเภทอื่นๆ ทั้งเรื่องของกลิ่นและเสียงของสัตว์เลี้ยง สามารถส่งผ่านไปถึงกันได้ง่าย จึงควรมีความรับผิดชอบ ทั้งในแง่จิตสำนึกต่อผู้อื่น และความเอาใจใส่ต่อสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ด้วยนะคะ
สำหรับท่านใดที่กำลังมีคำถามหรือข้อสงสัยและต้องการที่ปรึกษาทางด้านอสังหาฯแบบครบวงจร ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับทาง The Bangkok Residence ได้ทุกช่องทางตามรายละเอียดด้านล่าง
📍𝗦𝗔𝗟𝗘 𝗢𝗙𝗙 𝗨𝗣 𝗧𝗢 𝟱𝟬% 𝗕𝗥 𝗔𝗚𝗘𝗡𝗧 จัดให้ช้อป 𝙊𝙉𝙇𝙄𝙉𝙀 แบบจุกๆ กับคอนโดทำเลดี 4 ย่านสุดฮอต
✊️ ช้าหมดอด ต้องรีบจอง! ✊️
✅ 𝐒𝐮𝐤𝐡𝐮𝐦𝐯𝐢𝐭 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3ny5Qc6
✅ 𝐒𝐚𝐭𝐡𝐨𝐫𝐧 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/34FkqWk
✅ 𝐏𝐡𝐚𝐲𝐚𝐭𝐡𝐚𝐢 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/2GDkdLi
✅ รัชดา 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3d9x17Y
📍 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ Call 1319
ติดตามข้อมูลข่าวสารดีๆทุกสัปดาห์ได้ที่ LINE@ : https://bit.ly/2TsKemK Facebook : https://bit.ly/3p4NVuP Twitter : https://bit.ly/3nTJOBy Instagram : https://bit.ly/3q6B7Xk
#WeAreBRagent #TheBangkokResidence #RealEstateForHappiness #ซื้อคอนโด #เช่าคอนโด #ขายคอนโด #เอเจ้นท์คอนโด #คอนโดมือสอง #คอนโดติดรถไฟฟ้า #คอนโดหรู