Thebkkresidence.com
ทุกข์ของคนรวย เมื่อบัญชีเงินฝากไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เราควรรับมืออย่างไร? วันนี้จะพาไปดูทางออกที่น่าสนใจสาหรับผู้ที่มีความมั่งคั่ง เพื่อไม่ให้เงินที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาต้องมลายหายไป
1. ตราสารหนี้ ตราสารหนี้ถือเป็นหนึ่งทางเลือกสาหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยแต่ต้องการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ลักษณะการลงทุนในตราสารหนี้นั้นจะแสดงถึง “การกู้ยืม” โดยผู้ถือตราสารหนี้จะมีสถานะเป็น ‘เจ้าหนี้’ หรือ ‘ผู้ให้กู้’ ส่วนผู้ออกตราสารหนี้จะมีสถานะเป็น ‘ลูกหนี้’ หรือ ‘ผู้กู้’ เราในฐานะที่เป็นผู้ให้กู้ก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของ “ดอกเบี้ย” จนกว่าจะครบกาหนดไถ่ถอนก็จะได้ “เงินต้น” คืนด้วย
ตราสารหนี้แบ่งตามประเภทผู้ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามประเภทผู้ออกได้แก่ 1.ตราสารหนี้ภาครัฐ หรือ พันธบัตร (Government Bond) และ 2. ตราสารหนี้ภาคเอกชน หรือ หุ้นกู้ (Corporate Bond) ซึ่งออกโดยบริษัทเอกชนต่าง ๆ เพื่อเป็นการระดุมทุน ทั้งนี้ ให้ระวังความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชาระหนี้ด้วยหากซื้อหุ้นกู้เอกชน แนะนาว่าให้ตรวจสอบดี ๆ ว่าบริษัทที่เราจะซื้อหุ้นกู้นั้นมีความมั่นคงและสามารถชาระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นคืนเราได้ตามระยะเวลาที่กาหนดหรือไม่
ส่วนผลตอบแทนเฉลี่ยของตราสารหนี้อยู่ที่ 2-5% ก็สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นมาหน่อย แต่ต้องดูให้ดีเพราะผลตอบแทนของตราสารหนี้บางทีก็แพ้อัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นควรนาอัตราเงินเฟ้อมาคานวณด้วยว่าได้คุ้มเสียไหม
2. ทองคา “ทองคา” เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่แสดงถึงความมั่งคั่งร่ารวยและได้รับการรับรองอย่างเป็นสากล การลงทุนในทองคาสามารถทาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ลงทุนทางตรงโดยการซื้อทองคาจากหน้าร้านเลยทั้งทองคาแท่งหรือรูปพรรณ ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในทองคา ลงทุนผ่านสัญญาซื้อขายทองคาล่วงหน้า (Gold Futures) หรือจะเป็นการออมทองคาผ่านโบรกเกอร์ที่ให้บริการก็ได้เช่นกัน ทองคาถือเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องค่อนข้างสูงเนื่องจากสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย มีค่าความผันผวนต่ากว่าสินทรัพย์เสี่ยงชนิดอื่นและมีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นต่ามาก จึงนิยมนามากระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน
3. หุ้น “ตราสารทุน” หรือ “หุ้น” คงเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่หลาย ๆ คนคุ้นหน้าคุ้นตากันแล้ว ลักษณะการลงทุนในหุ้นนั้นจะแสดงถึงการเป็น “เจ้าของกิจการ” หมายความว่าหากเราซื้อหุ้นตัวนั้น ๆ เราก็จะมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการนั่นเอง โดยจะมีสิทธิ์เท่าไรก็ตามสัดส่วนการถือครองเลย สาหรับผลตอบแทนที่ได้จากหุ้นจะเรียกว่า ‘ส่วนต่างราคา (Capital Gain)’ รวมไปถึง ‘เงินปันผล (Dividend Yield)’ ในกรณีที่บริษัทนั้น ๆ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นอยู่ที่ประมาณ 7.77% (ข้อมูลผลตอบแทนรวมตลาดหุ้นไทย (SET TRI) ย้อนหลัง 10 ปี l ที่มา:ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, ณ วันที่ 31 มี.ค. 64) เยอะหน่อย แต่อย่าลืมว่าผลตอบแทนจากการลงทุนยอมแปรผันตรงกับความเสี่ยง หมายความว่ายิ่งผลตอบแทนสูงความเสี่ยงก็จะยิ่งมากขึ้นตามกันไป ควรศึกษาด้วยความระมัดระวังก่อนตัดสินใจจะเข้าไปเป็นเจ้าของกิจการไหน โดยเฉพาะลักษณะของธุรกิจ ความได้เปรียบในตลาด ความโปร่งใสในการดาเนินกิจการฯ
4. กองทุนรวม กองทุนรวมเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความน่าสนใจมาก เพราะเสน่ห์ของกองทุนรวมคือการที่นักลงทุนสามารถลงทุนในสินทรัพย์แบบที่เรียกได้ว่าเกือบครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นด้วย ไม่ว่าจะเป็น ตราสารหนี้ ทองคา หุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เรียกได้ว่ามัดรวมเกือบทุกสินทรัพย์ไว้ใน “กองทุนรวม” ที่เดียวจริง ๆ อีกหนึ่งจุดเด่นของกองทุนรวมคือ แต่ละกองทุนจะมี “ผู้จัดการกองทุน” คอยบริหารดูแลเงินที่นักลงทุนระดมทุนมาลงทุน ซึ่งจะต่างกับการลงทุนในหุ้นรายตัวที่เราต้องมาศึกษาดูตัวเลขทางการเงินของบริษัทนั้น ๆ เอง แต่การมีผู้จัดการกองทุนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ต้องศึกษาก่อนลงทุนในกองทุนรวมนะ ความเสี่ยงของกองทุนรวมนั้นจะขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน ดังนั้นควรศึกษานโยบายการลงทุนและความเสี่ยงต่าง ๆ รวมไปถึงค่าธรรมเนียมกองทุนก่อนลงทุน
ประเภทของกองทุนรวม - ความเสี่ยงระดับที่ 1: กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ ได้แก่ ตั๋วเงิน และตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี - ความเสี่ยงระดับที่ 2: กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ ได้แก่ ตั๋วเงิน และตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอายุไม่เกิน 1 ปีที่ลงทุนในต่างประเทศ - ความเสี่ยงระดับที่ 3: กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี - ความเสี่ยงระดับที่ 4: กองทุนรวมตราสารหนี้ ได้แก่ ตราสารหนี้ทั้งที่ออกโดยภาครัฐและเอกชน - ความเสี่ยงระดับที่ 5: กองทุนรวมผสม ลงทุนในสินทรัพย์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ - ความเสี่ยงระดับที่ 6: กองทุนรวมตราสารทุน เน้นลงทุนในหุ้นเป็นหลัก ทั้งหุ้นในประเทศและต่างประเทศ - ความเสี่ยงระดับที่ 7: กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม ยังคงเป็นประเภทกองทุนที่ลงทุนในหุ้นแต่เจาะจงกลุ่มอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่ม Healthcare - ความเสี่ยงระดับที่ 8: กองทุนรวมทางเลือก เช่น ทองคา น้ามัน สินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ
เกมส์การเงิน จะเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย ขึ้นอยู่กับการศึกษาหาความรู้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้รู้จริงถึงพื้นฐานความแข็งแกร่งของหุ้นแต่ละชนิด และการบริหารจัดการของกองทุนต่างๆ
5. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่การลงทุนทุกรูปแบบล้วนน่าสนใจ แต่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมนั้นน่าสนใจกว่า เมื่อเทียบผลกาไรกับการลงทุนประเภทอื่นแล้ว การลงทุนคอนโดให้ผลตอบแทนดีที่สุด จากสถิติในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา (ยกเว้นในช่วงเวลาไม่ปกติเช่นการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19) คือ +88% ขณะที่หุ้นสามัญ +5.35% ตราสารหนี้ +1.82% ทองคา -2.53% บิทคอยน์ -16% และเมื่อเทียบกับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน ทาวน์เฮ้าส์พร้อมที่ดิน +5.22% บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน +3.03%
นอกจากผลตอบแทนที่ได้มากกว่าการลงทุนประเภทอื่นแล้ว การลงทุนอสังหาฯยังตอบโจทย์ในเรื่องความมั่นคง ปลอดภัย ให้ผลกาไรที่แน่นอน ไม่ต้องคอยติดตามผลอย่างต่อเนื่อง หรือการได้รับข้อมูลข่าวสารเชิงลึกซึ่งมีผลแปรผันกับราคาหุ้น เป็นการลงทุนที่ง่ายประเภทหนึ่ง ใช้เวลามากเฉพาะตอนเริ่มต้นในการศึกษาหาข้อมูลเท่านั้น
สิ่งที่ได้รับจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ 1. กาไรจากส่วนต่างของราคา ที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา บางครั้งอาจพบกาไรสูงถึงกว่าพันเปอร์เซ็นต์ 2. กาไรจากการปล่อยเช่า หากไม่ได้ใช้ด้วยตนเอง 3. การบริหารจัดการที่ไม่ยุ่งยาก 4. การใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เสมือนใช้ฟรี เพราะเมื่อขายก็ได้เงินคืนแถมส่วนต่างกาไรด้วย 5. ในบางกรณียังเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงินตัวเองด้วยเช่น คอนโดมิเนียม บ้าน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การที่จะเริ่มลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ ควรศึกษาข้อมูลและทาความเข้าใจในสินทรัพย์นั้น ๆ ก่อนเสมอ หาเป้าหมายและความถนัดในการลงทุนของคุณให้เจอ ลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะกับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่คุณรับได้ และอย่าลืมกระจายการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งนั่นจะทาให้คุณไม่เครียด และการลงทุนของคุณจะมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น ขอให้ทุกท่านโชคดีและประสบความสาเร็จในการลงทุนค่ะ
อ้างอิง FINNOMENA
📍𝗦𝗔𝗟𝗘 𝗢𝗙𝗙 𝗨𝗣 𝗧𝗢 𝟱𝟬% 𝗕𝗥 𝗔𝗚𝗘𝗡𝗧 จัดให้ช้อป 𝙊𝙉𝙇𝙄𝙉𝙀 แบบจุกๆ กับคอนโดทำเลดี 4 ย่านสุดฮอต
✊️ ช้าหมดอด ต้องรีบจอง! ✊️
✅ 𝐒𝐮𝐤𝐡𝐮𝐦𝐯𝐢𝐭 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3ny5Qc6
✅ 𝐒𝐚𝐭𝐡𝐨𝐫𝐧 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/34FkqWk
✅ 𝐏𝐡𝐚𝐲𝐚𝐭𝐡𝐚𝐢 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/2GDkdLi
✅ รัชดา 𝗖𝗹𝗶𝗰𝗸 > https://bit.ly/3d9x17Y
📍 เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ Call 1319 LINE@: http://line.me/ti/p/%40bkkresidence Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokResidence Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokresidence/